ทำไมถึงต้องใช้มอเตอร์กันระเบิด ?
ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานที่ ที่อากาศมีส่วนผสมของสารเคมี ก๊าซ ไอระเหย หรือสารไวไฟในอากาศ รวมไปจนถึงฝุ่นละออง จะสามารถก่อให้เกิดการระเบิดได้ หากมีการเกิดประกายไฟ หรืออุณหภูมิแวดล้อมสูงขึ้นจนถึงจุดวาบไฟ
เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในพื้นที่อันตราย เช่น เครื่องสูบน้ำ คอมเพรสเซอร์ พัดลมระบายอากาศ เครื่องผสม เครื่องบด รวมถึงเครื่องจักรอื่นๆ โดยทั่วไปจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนที่เคลื่อนไหวหมุนทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา จึงมีโอกาสที่จะเกิดประกายไฟ ดังนั้นการเลือกมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องจักรจึงต้องเป็น มอเตอร์กันระเบิด ซึ่งจะต้องได้รับการออกแบบ เลือกใช้ และติดตั้งได้อย่างถูกต้องตามหลักความปลอดภัย
ตามข้อกำหนดของมาตรฐานยุโรป สามารถจัดแบ่งสถานที่ซึ่งสามารถเกิดอันตรายจากก๊าซหรือไอระเหย ซึ่งจะทำให้เกิดการระเบิดลุกไหม้ได้ เป็น 3 โซน
1. โซน 0 เป็นพื้นที่อันตรายสูงสุด มีก๊าซหรือไอระเหยเป็นช่วงเวลานานต่อเนื่อง เช่น ในภาชนะของเหลวไวไฟ ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ในพื้นที่นี้ไม่อนุญาติให้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า
2. โซน 1 เป้นพื้นที่อันตราย อาจจะเกิดการระเบิดได้โดยไม่คาดคิด จากการทำงานปกติ เช่นพื้นที่รอบโซน 0 อุปกรณ์ที่ใช้ใน Zone นี้จะต้องเป็นอุปกรณ์กันระเบิด
3. โซน 2 เป็นพื้นที่ ที่ไม่มีก๊าซติดไฟปรากฏตามสภาวะการใช้งานปกติ หรือมีน้อย อาจเกิดอันตรายจากการทำงานได้ โดยอาจจะเกิดนานๆครั้ง และมีช่วงระยะเวลาอันสั้น อุปกรณ์ที่ใช้ใน Zone นี้จะต้องเป็นอุปกรณ์กันระเบิด
นอกจากก๊าซไวไฟที่ไวต่อการระเบิด ยังมีฝุ่นผงหรือไฟเบอร์ที่อาจเกิดอันตราย พร้อมที่จะติดไฟและระเบิดได้ เช่น ฝุ่นผงจากธัญพืชต่างๆ ฝุ่นผงสารเคมี เม็ดพลาสติก ขี้เลื่อย ยางไม้ เป้นต้น โดยตามมาตรฐานยุโรป สามารถแบ่งโซนของฝุ่นได้ดังต่อไปนี้
Zone 20 : เป็นพื้นที่ที่มีฝุ่นผงที่สามารถก่อให้เกิดการระเบิดได้อย่างต่อเนื่อง ในสภาวะการทำงานปกติ และไม่สามารถควบคุมได้ ในพื้นที่นี้ไม่อนุญาติให้ใช้มอเตอร์
Zone 21 : เป็นพื้นที่ ที่ไม่อยู่ในโซน 20 สามารถเกิดฝุ่นที่สามารถก่อให้เกิดการระเบิดได้บ้างในขณะการทำงานปกติ
Zone 22 : เป็นพื้นที่ที่ไม่อยู่ในโซน 21 สามารถเกิดฝุ่นละอองที่สามารถก่อให้เกิดการระเบิดได้ไม่บ่อย เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ หรือเกิดขึ้นในสภาวะผิดปกติจากการทำงาน
ทั้งนี้การเลือกใช้มอเตอร์กันระเบิดนั้น ผู้ใช้งานมีความจำเป็นต้องทราบว่าจะนำไปใช้งานใน โซนพื้นที่ใด เพื่อที่จะสามารถเลือกมอเตอร์ที่มีคุณสมบัติให้ตรงตามหลักความปลอดภัย โดยจะต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆของมอเตอร์ร่วมด้วย ซึ่งจะกล่าวถึงได้บทความถัดไป